ตัวอย่างของการโต้แย้งระหว่าง เมเยอร์ ชาพิโร (Meyer Schapiro 1904-1996) นักประวัติศาสตร์ศิลปะที่ไม่เห็นด้วยกับ มาร์ติน ไฮเดกเกอร์ (Martin Heidegger b.1889-1976) ในการแยกแนวคิดทางสุนทรียศาสตร์ออกจากประเด็นทางประวัติศาสตร์ของภาพวาด เนื่องจากบทความที่ชื่อ The Origin of the work of Art ตีพิมพ์ในปี 1950 เสนอว่าผลงานจิตรกรรม A Pair of Shoes (1886) ซึ่งวาดโดย Vincent van Gogh คือภาพรองเท้าของหญิงชาวนา
จากการศึกษาและตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ ชาพิโร ในบทความที่ชื่อว่า The Still Life as a Personal Object – A note on Heidegger and van Gogh ตีพิมพ์ในปี 1968 ได้พยายามอธิบายถึงที่มาหรือสภาพดั่งเดิมของภาพวาด และเชื่อว่าภาษาเป็นที่มาของภาพวาดเหล่านั้น และระบุว่ารองเท้าในภาพนั้นเป็นของ van Gogh เอง
การอธิบายชนบทในฐานะเป็นหน่วยของการศึกษาวิเคราะห์ความด้อยพัฒนา จากสายตาของรัฐและปฏิบัติการของนักมานุษยาวิทยาทำให้ความหมายที่ไม่หยุดนิ่งในภาพวาดชนบท เชื่อมโยงกับบริบททางประวัติศาสตร์ของสงครามเย็นและปฏิบัติการของ CIA ในหมู่บ้านชนบทของไทยได้อย่างเนียนประณีต
เป็นที่ทราบดีว่างานศึกษาวิจัยในประเด็นนี้ของ เก่งกิจ มิได้ไขปัญหาหรือข้อสงสัยเชิงสุนทรียศาสตร์ของจิตรกรรมภาพชนบท ความพยายามในการเชื่อมโยงข้อมูลและพยานหลักฐานของเขา ได้เผยให้เห็นถึงต้นกำเนิดของมานุษยวิทยาในประเทศไทยช่วงยุคสงครามเย็น ซึ่งได้รับการสนับสนุนหลายด้านจาก CIA
แนวคิดที่น่าทึ่งในสงครามเย็นใต้กรอบคิดของสำนักคอร์เนล (Cornell school of thought) คือ การทำสงครามโดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารจำนวนมากกว่าเพื่อเอาชนะข้าศึกที่มีจำนวนน้อยกว่า และเชื่อว่านักมานุษยวิทยาเพียง 1 คนกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็สามารถเอาชนะข้าศึกจำนวนเป็นร้อยได้
เรามาทำความเข้าใจบทบาทและแนวคิดวิธีวิทยาที่เชื่อมโยงกับประเด็นที่เกร่นมาข้างต้น ผู้เขียนหยิบยกผลงานที่มีชื่อยาวเหยียด The Nanjing Particles (After Henry Ward, View of C.T. Sampson’s Shoe Manufactory, With The Chinese Shoemakers in Working Costume, CA. 1875) ศิลปินโดย Simon Starling เป็นผลงานที่น่าสนใจและสามารถอธิบายเชื่อมโยงเรื่องพื้นที่และสถานที่เชิงประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
Starling เป็นศิลปินชาวอังกฤษ เกิดในปี 1967 ที่เมือง Epsom ทางตะวันออกเฉียงตอนใต้ของกรุงลอนดอน จบการศึกษาจาก Glasgow School of Art ในปี 1992 และได้รับรางวัล Turner Prize ในปี 2005 ผลงานของเขาถูกจัดแสดงอยู่ในหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ อาทิ Solomon R. Guggenheim Museum, Museum of Contemporary Art Chicago, San Francisco Museum of Modern Art, Kroller Muller Museum Netherlands ฯลฯ ปัจจุบันเขาพำนักและปฏิบัติงานอยู่ที่ Copenhagen และ Berlin
ผลงาน The Nanjing Particles เป็นผลงานสื่อผสมจัดวาง(multimedia installation) ประกอบด้วยประติมากรรมโลหะสแตนเลส ขนาด 200 x 420 x 150 cm และ 200 x 450 x 170 cm จำนวน 2 ชิ้น ติดตั้งภายในห้องจัดแสดงรวมถึงภาพถ่ายขาวดำ Inkjet print ขนาด 6 x 13 m ติดตั้งบนพนังที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นสองส่วน และภาพถ่ายขาวดำขนาดเล็กอีกหนึ่งชุดรวมกับสื่ออื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ผลงานชุดนี้เป็นงานที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อย้อนภาพประวัติศาสตร์การใช้แรงงานเชิงอุตสาหกรรมแห่งเมือง North Adams มลรัฐ Massachusetts
North Adams ในอดีตเมื่อปี คศ. 1870 เคยเป็นชุมชนที่มีประชากรชาวจีนอพยพที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดย Calvin T. Sampson ได้คิดริเริ่มนำเข้าแรงงานชาวจีนหนุ่มสาวเพื่อมาทดแทนลูกจ้างเดิมซึ่งนัดหยุดงานประท้วงโดยสหภาพแรงงาน ส่งผลให้โรงงานผลิตรองเท้า Sampson ต้องหยุดชะงัก และยังได้สร้างความหวังให้กับเจ้าของกิจการรายอื่นๆ ในมลรัฐ Massachusetts ให้หันมาใช้แรงงานชาวจีน แรงงานชาวจีนจำนวน 75 คนแรกเดินทางโดยรถไฟใช้เวลา 2 สัปดาห์ ข้ามฝั่งมาจาก San Francisco รายงานข่าวจากทาง Boston ระบุว่าเมื่อพวกแรงงานชาวจีนมาถึงผู้คนในเมือง North Adams ต่างรู้สึกถึงความไม่พอใจ พวกเขาถ่มน้ำลายใส่แรงงานกลุ่มนี้ นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ศิลปินได้สืบค้นข้อมูลและค้นพบภาพถ่ายซึ่งกลายเป็นสารตั้งต้นในงานสร้างสรรค์ โดยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของพื้นที่ผ่านภาพถ่ายและบันทึกเพื่อหาความสัมพันธ์ของการเคลื่อนย้ายแรงงาน และเหตุปัจจัยในการโยกย้ายถิ่นฐานของชาวจีนที่เมือง North Adams เพื่อรื้อสร้าง(Deconstruction) ประวัติศาสตร์ของพื้นที่เสียใหม่ด้วยขนวนการทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์
โดยการสืบค้นจากภาพถ่าย เราสามารถเชื่อมต่อประเด็นเรื่องของที่ตั้ง สถานการณ์ และประสบการณ์ร่วมในพื้นที่ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง (Site, situation and experience) ซึ่งปัจเจกบุคคลอย่างเราๆ ไม่สามารถนิยามสถานที่ในอดีตแห่งนี้ได้หากปราศจากชุดข้อมูลใดๆ จะสังเกตเห็นได้ว่าพื้นที่และสถานที่ซึ่งถูกตีความว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ๆ ซึ่งสามารถถูกยึดครอง มีตัวตนและถูกรับรู้ได้ เป็นพื้นที่ยึดครองโดยคุณค่าของวัตถุหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อพิจารณาผลงาน The Nanjing Particles ในฐานะภาพถ่ายตามแนวคิดของ Susan Sontag สามารถกล่าวได้ว่า Document หรือภาพถ่ายต่างๆ ในอดีตก็คือบันทึกประวัติศาสตร์ และเหตุการณ์ในอดีตของผู้คนที่มีความน่าพิศวงต่อเราในปัจจุบันและอนาคต
ในขั้นตอนนี้ศิลปินได้ร่วมงานกับนักวิทยาศาสตร์ที่เมือง Albany มลรัฐ New York เพื่อแยกสารประกอบแร่ธาตุออกจากภาพถ่ายด้วยเครื่องขยายที่เรียกว่า electron microscope ด้วยขนาด 1 ล้าน volt เพื่อเป็นการส่องกล้องขยายสัดส่วนสิ่งต่างๆ ที่มีขนาดเล็กมากในระดับนาโนเมตร ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้วขยายให้สามารถมองเห็นภาพ 3 มิติของเกล็ดของเหลวสีเงินที่แยกตัวออกจากพื้นผิวที่เคลือบอยู่บนกระดาษอัดภาพ ในฐานะเป็นจิตนการแห่งความจริง (imagined reality) เพื่อแกะเอาสิ่งที่ซ้อนอยู่ภายในพื้นผิวกระดาษอัดรูปออกมาให้เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่ง Starling ได้อธิบายว่าผลงาน The Nanjing Particles คือตัวอย่างผลการทำงานแบบ hybrid ระหว่างข้อมูลกับสสาร และความเป็นจริงจากสิ่งที่ผสมปนเปกันระหว่างเคมีกับดวงตา
ขั้นตอนต่อไปศิลปินได้เรนเดอร์รูปทรงผลึกของเหลวแล้วขยายให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในอัตราส่วน 1 ล้านเท่าจากขนาดดั้งเดิมแล้วนำไปสแกนเป็นรูปทรง 3 มิติ ของสสารซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายกับภาพ Biomorphic ขนาดใหญ่ จากนั้นศิลปินได้ส่งภาพสแกน 3 มิติไปยังเมือง Nanjing ประเทศจีน เพื่อให้แรงงานชาวจีนทุบขึ้นรูปทรงด้วยมือ (Forged stainless steel) ด้วยวัสดุโลหะสแตนเลส จากนั้นช่างผู้ชำนาญชาวจีนได้ทำการประกอบรูปทรงแต่ละส่วนเข้าด้วยกันและขัดเงาจนแวววาวเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะนำส่งกลับมาที่เมือง North Adams อีกที เพื่อนำมาจัดแสดงใน Mass MOCA’s (Massachusetts Museum of Contemporary Art) ที่ซึ่งครั้งหนึ่งก็คือโรงงานผลิตรองเท้า Sampson นั้นเอง
ส่วนสุดท้ายที่อยากพูดถึงในผลงาน The Nanjing Particles เห็นจะเป็นส่วนขยายภาพถ่ายจากภาพต้นฉบับทั้งสองภาพในขนาด 6 x 13 m ติดตั้งลงบนพนังขนาดใหญ่เกือบจรดเพดาน และรูที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นตามสัดส่วนเพื่อเปิดช่องให้ผู้ชมที่เดินเข้ามาจากด้านหน้าสามารถมองทะลุเห็นประติมากรรมตั้งอยู่เบื้องหลัง สะท้อนความมันวาวปรากฏอยู่กลางรูที่เจาะออก การที่ศิลปินนำภาพถ่ายต้นฉบับมาขยายคล้ายจะบ่งบอกถึงความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร เป็นการเชื่อมโยงพื้นที่จากอดีตในฐานะโรงงานทำรองเท้า Sampson’s Shoe Manufactory และพื้นที่ปัจจุบันในฐานหอศิลปะร่วมสมัย MASS MoCA (Massachusetts Museum of Contemporary Art) ให้มาบรรจบกันอย่างมีนัยสำคัญ
นิทรรศการ The Nanjing Particles (After Henry Ward, View of C.T. Sampson’s Shoe Manufactory, with the Chinese Shoemakers in working costume, North Adams and vicinity, ca. 1875), ครั้งนี้ถูกจัดแสดงขึ้นในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันต่างเฝ้ามองการเติบโตของจีนในฐานะผู้นำทางเศรษฐกิจโลก ศิลปินอธิบายข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่และจากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่ระบุว่า ชาวจีนที่มายังเมือง North Adams ในเวลานั้นเป็นกลุ่มแรงงานที่รับจ้างเพื่อมาสร้างทางรถไฟ แต่หลังจากศึกษาอย่างละเอียดศิลปินกลับพบข้อมูลที่สำคัญอันบ่งชี้ว่าพวกเขาคือแรงงานข้ามชาติกลุ่มแรกที่เดินทางไกลจากเวสต์โคสต์(West Coast) มาสู่ฝั่งอีสโครต์(East Coast) เพื่อเป็นลูกจ้างในโรงงานทำรองเท้าซึ่งห่างจากสถานีรถไฟไปเพียงฝั่งถนน
หากพิจารณาการรวมตัว(assemblage) ในความหมายเชิงเทคนิค พบว่าอิทธิพลเชิงกายภาพได้ปรากฏต่อเนื่องสืบมาบนไทม์ไลน์ในประวัติศาสตร์ศิลปะ และส่งต่อมาถึงศิลปะร่วมสมัยในปัจจุบันดังปรากฏเด่นชัดในผลงานของกลุ่มศิลปิน Young British Artists (YBA) ในผลงานของ Sarah Lucas, Damien Hirst และ Jake-Dinos Chapman และศิลปินร่วมสมัยอย่างเช่น Tomoko Takahashi, Christina Mackie และ Mike Nelson ที่สร้างผลงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ด้วยการรวมเอาเศษวัสดุและของที่หาได้ทั่วๆ ไป มาจัดแสดงในหอศิลป์
เก่งกิจ กิติเรียงลาภ, 2558, วิธีวิทยาทางการเมือง Antonio Negri: ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมและการปฏิวัติของMultitude
Subjectivity, affect and place: Thinking with Deleuze and Guattari’s Body without Organs to explore a young girl’s becomings in a post-industrial locale, December 2013
Manuel DeLanda, 2017, Deleuzian Social Ontology and Assemblage Theory, Pratt Institute
Manuel DeLanda, 2006, A New Philosophy of Society : Assemblage Theory and Social Complexity
การสร้างพื้นที่-สถานที่ ภายใต้บริบทซึ่งอยู่ในสภาวะของกระบวนการกลายสู่ (becoming) นั้น มีความสัมพันธ์กับสิ่งที่ไม่ตายตัว ตอกย้ำความคิดที่ว่าความรู้สึกต่อสถานที่และสภาวะไร้สถานที่ (placeness and placelessness) คือกุญแจสำคัญในการประกอบสร้างสถานที่ขึ้นมา (sense of placeness and the placelessness as key in the constitution of the place) แม้ non-place และ place จะเป็นสิ่งเดียวกันก็ตาม แต่มันไม่เคยปรากฏเป็นรูปเป็นร่างที่สามารถจับต้อง สถานที่กำลังสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่จากภายในตัวมันเอง ซึ่งจริงๆ แล้วมันมิได้มีอยู่ก่อนที่จะมีร่างกายปรากฏขึ้น มันเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างอย่างเป็นระบบระเบียบและมีการจัดการมาเป็นอย่างดี สถานที่จึงเกิดขึ้นควบคู่ไปกับร่างกายในลักษณะเป็นส่วนขยายของมนุษย์ โดยมีสะพานเชื่อมระหว่างกันและกัน
1. Marc Augé, Non-places. Introduction to an Anthropology of Supermodernity, New York-London, Verso,1995, pp-77-96 (ed. or. Non-Lieux, Introduction à une anthropologie de Ia surmodernité, Paris, Seuil, 1992)
2.Kevin Donovan, Building Supermodernity: The Architecture of Supermodernism, Jan 1, 2009
4. ศุภมณฑา สุภานันท์, พื้นที่เวลา อัตลักษณ์และการสร้างความหมายทางสังคม, 186…Journal of Communication Arts Vol. 29 No. 3 2011 Faculty of Communication Art, Chulalongkorn University
เช่นทักษะและความสามารถของศิลปินในการจัดการกับความล้นเกินทางข้อมูลในบิ๊กเดต้าเบส ก็เป็นประเด็นที่น่าคิดเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพที่ได้ในผลงานวิจัยเชิงทัศนศิลป์ของศิลปิน Hsu Chia-Wei และ Ho Tzu-Nyen ภัณฑารักษ์ใน 2019 Asian Biennial: The Strangers from Beyond the Mountain and the Sea ครั้งนี้
“ทำความเข้าใจโครงสร้างปัญหาของสังคมไทยตามทัศนะและข้อบงชี้ในงานวิจัยของ Charles F. Keyes (1937-) ขบถผีบุญแห่งสำนักคอร์เนล …. จะได้ประโยชน์ต่อสังคมมากกว่าหรือไม่ ?”
Friction Current: Magic Mountain Project 2019
Mix media installation with Single-channel, Video full HD, Black and white, Silent, 20 min. 09 sec., Loop,
wooden shelf-Black acrylic 29.7 x 42 cm., 5g. NaAlSi2O6 Powder, C10H15N Human urine, Refrigerated cabinet
120 x 120 x 200 cm., Jadeite Ø 12.7 cm., Marble sphere fountain Ø 60 cm. x 50 cm., Immersion sturgeon waterproof
contact microphone, USB audio interface, controller, 6 sound speakers, Water pump, Paint 29.7 x 42 cm.,
Documentation 21 x 29.7 cm. x 2, Stamp on 100 Yuan-1990 China Banknote, Mural paint.
Artistic research project by jiandyin
Commissioned by 2019 Asian Art Biennial
Grip and Lighting Equipment Fund: VS Film Fund, Thailand
Cinematographer: Liam Morgan
3d motion graphic: Sawitree Premkamon
Sound engineer: Chang Huei Ming, Huang Wei
Artist assistants: Awika Samukrsaman, Atsushi Boonmeewiset
Geology advice: Thampaphon Sunpa-udom
Friction Current: Magic Mountain Project 2019
ในปี ค.ศ. 1956 Black Mountain College ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ความหวาดระแวงซึ่งกันและกันในสังคมจากนโยบายต่อต้านภัยคุกคามอันเป็นคอมมิวนิสต์ของรัฐบาลกลาง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Black Mountain College อาจไม่รุนแรงหรือป่าเถื่อนเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ล้อมปราบและเข่นฆ่านักศึกษาในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แต่ถึงอย่างไรสถาบันศิลปะเล็ก ๆ ในภูเขาสีดำอย่าง Black Mountain College ก็ได้รับผลกระทบที่รุนแรงและต้องปิดตัวไปในที่สุด
Experimental education: Black Mountain College
Black Mountain College ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1933 ปีเดียวกับการก่อตั้งโรงเรียนประณีตศิลปกรรม โดยหลวงวิจิตรวาทการ (b.1898- 1962) พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (b.1895- 1950) และศาสตราจารย์ คอร์ราโด เฟโรชี (Corrado Feroci; b.1892–1962) ชาวอิตาลีซึ่งเดินทางมารับราชการในประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอาจารย์ผู้สอนหลัก
ยังส่งผลให้รูปแบบกิจกรรมและรูปลักษณ์ของมวลชนและรูปแบบการชุมนุมมีความแปลกใหม่ด้วยความคิดสร้างสรรค์นานาประการ อาทิ กิจกรรม Art Lane และ Shutdown Bangkok เป็นต้น
กรณีศึกษาที่น่าสนใจจาก Black Mountain College พื้นที่ทดลองการศึกษาเล็ก ๆ ในหุบเขาสีดำเป็นกรณีการเมืองแทรกแซงโดยอำนาจรัฐ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางการศึกษาอย่างรุนแรงและได้ทำลายโรงเรียนศิลปะในฝันหรือโรงเรียนต้นแบบของใครหลายคน
Black Mountain College ปิดตัวลงเมื่อปี ค.ศ. 1957 หลังเปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 24 ปี และเป็น 24 ปีแห่งความเข้มข้นของการค้นคว้าทดลองเชิงปฏิบัติการ ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติและความมุ่งมั่นในการศึกษาสหวิทยาการ (interdisciplinary)
ประกอบกับความลุ่มลึกในหลักการและปรัชญาการศึกษาแบบก้าวหน้าของ John Dewey (1859 –1952) แนวคิดที่เปิดให้กระบวนการทางศิลปะเป็นแก่นกลางของประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งหลาย
นอกจากนั้นพวกเขาร่วมสร้างกิจกรรมเช่น การทำงานที่แปลงผักสวนครัว โครงการออกแบบและก่อสร้างอาคาร และบังกะโลที่พัก สร้างอุปกรณ์ต่างๆในการเรียนการสอนร่วมกัน Black Mountain College คือ โรงเรียนที่ไม่มีหน่วยกิตและไม่ต้องเสียค่าเทอม ฯลฯ
Black Mountain College learning activity
แม้แต่งานในครัวพวกเขาก็แบ่งหน้าที่กันดูแลและรับผิดชอบ Black Mountain College คือโรงเรียนแบบกินนอนและมันได้กลายเป็นคอมมูทางด้านสหวิทยาการสมัยใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ณ เวลานั้น
นักเรียนและผู้สอน(student and faculty) กินนอนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ในวันหยุดนักศึกษามักไม่ค่อยกลับบ้านหลังอาหารค่ำพวกเขาเต้นรำและจัดการแสดงสดต่างๆ เสมอ
ผู้สอนและนักศีกษาแสดงละครร่วมกัน โดยนำผลงานของแต่ละคนค้นหาความเป็นไปได้ของการนำเสนอศิลปะความร่วมมือและการมีส่วนร่วมทางสังคม (Collaborative and participatory arts) สร้างสรรค์อุปรากรร่วมสมัย
หลายทศวรรษต่อมาพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และยุโรปได้จัดแสดงนิทรรศการถอดความรู้เกี่ยวกับ Black Mountain College ซึ่งแน่นอนว่าบทภัณฑารักษ์ของนิทรรศการหลายครั้งเน้นย้ำไปที่การเรียนรู้เชิงสหวิทยาการซึ่ง Black Mountain College ได้พัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 50-60
สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือ FBI ได้ออกคำสั่งให้ทำการสืบสวนในทางลับที่ Black Mountain College โดยเปิดเผยมูลเหตุเอกสารในการสืบสวนยื่นต่อ Carolina Public Press ผ่านข้อกฎหมายเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและสาธารณะชนสามารถเข้าถึงได้
มีรายงานว่าองค์การทหารผ่านศึกได้จัดการและควบคุมปฏิบัติการตรวจสอบ Black Mountain College และได้แสดงความกังวลที่องค์การฯเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยการมอบทุนการศึกษา G.I. bill ในลักษณะทุนให้เปล่าประจำปี แก่ Black Mountain College
หลังจากการประชุมเจ้าหน้าที่องค์การทหารผ่านศึก พวกเขาได้ยื่นรายงานสรุปให้คณะกรรมการด้านการศึกษาแห่งรัฐ North Carolina เพื่อถอนใบอนุญาตรวมถึงการยกเลิกงบประมาณที่บริจาคให้แก่สถาบัน
ขณะที่ทุนรอนในการจัดการศึกษาได้มาถึงจุดเสื่อมโทรม นักศึกษาและทางคณะประกาศขายเปียโน สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อช่วยเยี่ยวยาสภาพคล่องทางการเงินของ Black Mountain College
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างลงความเห็นว่าการขยับขององค์การทหารผ่านศึกครั้งนั้นคือหายนะ และมรณ กรรมทางการศึกษา ไม่ใช่เพียงการระงับความช่วยเหลือด้านการเงินแก่สถาบันฯในฐานะผู้มอบทุนสนับ สนุนการศึกษา แต่ในขณะเดียวกัน VA ได้กลายเป็นเจ้าภาพในการจัดการและทำลายความก้าวหน้าทางการศึกษาเสียเอง
นักศึกษาที่นี่ไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน …
บันทึกการสอบสวนของ FBI ระบุว่า “การจัดการเรียนการสอนของ Black Mountain College มีลักษณะที่ผิดแผกแตกต่างไปจากสถาบันการศึกษาทั่วไปตัวอย่างเช่น นักศึกษาที่นี่ไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน (Do nothing all day) พวกเขาอาจรวมตัวกันที่ทะเลสาบหรือหน้าอาคาร”
Lake Eden, Black Mountain: The Art of Doing Nothing
บรรยากาศแห่งเสรีนิยมหัวก้าวหน้าของ Black Mountain College ได้ดึงดูดความสนใจใคร่รู้จากสาธารณะชนมากยิ่งขึ้นและนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยที่ว่า Black Mountain College ได้รับการอุปถัมภ์โดยพวกคอมมิวนิสต์ที่ปฏิบัติการแทรกซึมอยู่ในสหรัฐอเมริกาขณะนั้นจริงหรือไม่?
Campus map: The Service House #9, เชิงเขา Rocky Mount ใกล้กับทะเลสาบอีเดน
Rockburne อธิบายภาพเหตุการณ์ให้เราฟังเหมือนมันเพิ่งผ่านไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอคือนักศึกษาเพียงไม่กี่คนที่ได้ลงเรียนปรัชญาและประวัติศาตร์คณิตศาสตร์ ในวิชา Geometry for Artists กับ Max Dehn นักคณิตศาสตร์ นักเลขาคณิต และนักปริภูมิคณิตศาสตร์ทฤษฏี ที่ Black Mountain College
“มันเป็นวิชาคณิตศาสตร์ที่ไม่ได้สอนคณิตศาสตร์ แต่เป็นวิชาที่สอนให้ศิลปินคิดอย่างเป็นคณิตศาสตร์ “ Rockburne พูดถึง Dehn ในฐานะ Turning point
Dorothea Rockburne, an installation view Dia: Beacon NY
หลังจากที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวขับเคลื่อนเรื่องสิทธิมนุษยชน Paul Radin เดินทางหลบหนีไปอยู่ Switzerland ในปีค.ศ. 1952 และทำงานให้กับ Bollingen Foundation ร่วมกับ C. G. Jung ที่มูลนิธิเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาวิจัยและงานหนังสือวารสารของมหาวิทยาลัย
สื่อต่อต้าน Red Scare ภัยคุมคามคอมมิวนิสต์ในสหรัฐอเมริกา
ต่อมาในวันที่ 21 กฏาคม 1956 อัยการกลาง James M. Baley ได้เข้าพบพนักงาน FBI ซึ่งเกี่ยวข้องในการลงพื้นที่สืบสวนจากเมือง Charlotte และยืนยันการสืบสวนอย่างเป็นทางการว่าพยานหลักฐานที่จะเอาผิดทางกฏหมายต่อ Black Mountain College ยังไม่เพียงพอในการส่งฟ้องต่อศาล
เขาได้กล่าวในท้ายที่สุดว่าจะไม่มีการดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติมอีกต่อไปและให้หยุดปฏิบัติการสืบสวนทันที FBI จึงยุติการปฏิบัติหน้าที่สืบค้นพยานหลักฐานภายใน Black Mountain College พวกเขาใช้เวลาประมาณพียงเดือนเศษ ภูเขาสีดำได้ถูกปกคลุมไปด้วยความสิ้นหวัง
การเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด และปิดตัวลงด้วยขาดทุนรอนสนับสนุนในการจัดการศึกษาจนอีกหลายทศวรรษ Black Mountain College ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถาบันทดลองด้านการศึกษาที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงโลกเช่นเดียวกับสถาบันเบาเฮาส์ซึ่งถูกนาซีสั่งปิด
Chapter: V
หลังจากที่ John Andrew Rice (1888 – 1968) นักสังคมศาสตร์-นักการศึกษาหัวก้าวหน้า Theodors Dreier (-1997) วิศวกร-นักการศึกษา เพื่อน ๆ และนักศึกษาบางส่วนถูกขับไล่จาก Rollins College เมือง Winter Park รัฐฟลอริดา เนื่องจากพวกเขาประท้วงเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปการศึกษา
Rice และ Dreier ร่วมกันก่อตั้ง Black Mountain College ขึ้นในปี ค.ศ. 1933 โดยได้ริเริ่มวางรากฐานแนวทางการศึกษาสหศาสตร์ด้วยดุลยภาพในความเป็นมนุษย์ การลงมือกระทำ และศิลปะในฐานะศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้และเปิดเสรีการศึกษา
ภาพ: BMC Left: Studies Building, Designed in 1940 by A. Lawrence Kocher, the building was completed in 1941. An image in 2007
John Andrew Rice ได้ทะลายกำแพงชนชั้นระหว่างผู้สอนกับผู้ศึกษา และสร้างชุมชนการศึกษาหัวก้าวหน้าด้วยการทดลองต่าง ๆ ในเชิงสหวิทยาการตามหลักปรัชญาการศึกษาของ John Dewey ซึ่งเชื่อว่าการศึกษานั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านการกระทำ (Learn by doing) และอาศัยมือของเราเองเป็นผู้สอน
โดยเฉพาะหนังสือ Art as Experience นั้นถูกโจมตีว่าเป็นงานนิพนธ์ที่ใช้หลักปรัชญาของHegelไม่ต่างอะไรจากแนวคิดของ Croce ซึ่งประกาศตนว่าเป็นเฮเกลเลียนศึกษาและสนับสนุนความเป็นอภิมนุษย์ของศิลปิน